ชื่อ : เซ็นการ์ ซอมโบลท์ (Zengar Zombolt )
ฉายา/ชื่อเล่น : Boss (โดย เอ๊กเซเลน) , ดาบพิฆาตอธรรม( Aku o tatsu tsurugi),
ดาบแห่งเมกัส , ลุงเซ็นเกอร์, ตาลุงโลลิคอน
คนพากย์ : Kenichi Ono
อายุ : 29 ปี
เชื้อชาติ : เยอรมัน
ยศ : พันตรี
หน่วยที่สังกัด : Aggressor (ก่อน OG1), ATX Team (OG1), Divine Crusader (OG1), Ancestor (Alpha Gaiden), Londo Bell (Alpha Gaiden), Alpha Number(Alpha 2, 3), Kurogane Team (OG1, OG2, OG Gaiden)
ความสัมพันธ์ : เอลซัม ฟอน บรันสไทน์ (เพื่อนสนิท), กิเรียม เยอร์ก้า (อดีตทีม Aggressor), ไค คิตามูระ (อดีตทีม Aggressor), โซเฟีย เน็ต (คนรัก), อิรุย กันเอเดน (คนที่ต้อปกป้อง), ริชูว์ โทวโก (อาจารย์), บรู๊คลิน ลักค์ฟิลด์ (ศิษย์ร่วมสำนัก)
หุ่นประจำตัว : Thrudgelmir (Alpha Gaiden), Grungust Reishiki (OG1), Grungust Sanshiki (OG2/Alpha 2), Daizengar (Alpha 2,3/OG2, OGGaiden)
เพลงประจำตัว : Gate of Megus, Aku o tatsu tsurugi , Ken Kon Itteki

   เซ็นการ์ ซอมโบลด์ อายุ 29 ชาวเยอรมัน หนึ่งในตัวละครออริจินอลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของ Banpresto ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกใน Super Robot Wars Alpha Gaiden ขับหุ่น Thrudgelmir ในฐานะดาบแห่งเมกัส ซึ่งเป็นผู้เฝ้าประตูทางเข้าสู่เอิร์ธ เครเดิ้ล โดยปกติจะเป็นคนที่เคร่งขรึม ยึดถือในเกียรติ และ สู้ไปตามความเชื่อ ของตัวเอง ลักษณะคล้ายกับพวกซามูไร ของญี่ปุ่น โดย เซ็นการ์ ได้ฝึกการต่อสู้ตามแบบอย่างซามูไรมาจาก ปรมจารย์ดาบ แห่งสำนัก Jigen-Ryu ริชูว์ โทวโก ผู้ออกแบบดาบให้กับ Grungust Serie ใน SRW OG Series

   เซ็นการ์ จะมีคำพูดประจำตัวซึ่งมักจะพูดทุกครั้งที่โจมตีคือ “Ware wa Zengar Zombolt Aku o tatsu tsurugi nari !!!” หรือ แปลเป็นไทยว่า “ข้าคือ เซ็นการ์ ซอมโบลท์ดาบพิฆาตอธรรม” โดยคำพูดประโยคนี้ จะเปลี่ยนแปลง ไปตามสถานการณ์กับสถานะของเซ็นการ์ด้วย อย่างตอนเป็นดาบแห่งเมกัส ก็จะเปลี่ยนตรง “Aku o tatsu tsurugi nari” เป็น “Megas no tsurugi nari” เป็นต้น ถ้าดาบสามารถทำลายศัตรูได้ก็จะปิดฉากด้วยคำพูดว่า “Ware ni tatenu mono nashi” หรือ “Waka Zankantou ni tatenu mononashi” แปลเป็นไทยว่า “ไม่มีอะไรที่ข้าตัดไม่ขาด” และ “ไม่มีอะไรที่ซันคันโตของข้า ตัดไม่ขาด” ตามลำดับ ลักษณะพิเศษอีกอย่างของเซ็นการ์คือ อาวุธที่เป็นลักษณะเฉพาะของเจ้าตัวก็คือ ดาบขนาดยักษ์ที่เรียกว่า “Zankantou” ซึ่งภาษาไทยแปลว่า ดาบผ่ากองเรือ หรือ ดาบพิฆาตนาวา ซึ่งจะติดให้กับหุ่นทุกตัวที่แกขับเสมอ ปัจจุบันนี้ได้มีดาบออกมาแล้ว 3 Ver. คือ Reishiki Zankantou (Grungust Reishiki), Sanshiki Zankantou (Grungust Sanshiki, Daizengar) และ Thrudgelmir Zankantou นอกจากนี้เซ็นเกอร์ ยังเป็นพวก
Non-alcoholic ซึ่งก็คือพวกที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ได้ มีครั้งนึงที่อิรุย ชงกาแฟมาให้เจ้าตัว แล้วผสม แอลกอฮอล์ ลงไปด้วย ทำให้เซ็นเกอร์ ถึงกับทรุดเลยทีเดียว ดังนั้นปกติแล้วเจ้าตัวจะดื่มชาอูหลง ซะมากกว่า

   ใน SRW OG เซ็นการ์ปรากฎตัวในฐานะ หัวหน้าทีม ATX ของกองทัพสหพันธ์โลกซึ่งประกอบด้วย เคียวสุเกะ, เอ๊กเซเลน บราวนิ่ง และ บรู๊คลิน ลักซ์ฟิลด์ เป็นลูกทีม แต่หลังจากการก่อตั้ง Divine Crusader (DC) ของ ดร.บิอัน โซลดาร์ค และ ได้พบกับ เอลซัม ฟอน บรันส์ไทน์ อดีตเพื่อนร่วมทีม Aggressor เซ็นการ์ ก็ตัดสินใจละทิ้ง ATX ทีมไปเข้าร่วมกับ DC ก่อนจะเข้าร่วมกับกองกำลัง United Colony Corps (UCC) ของ ไมเยอร์ ฟอน บรันสไทน์ ในเวลาต่อมา โดยมีเป้าหมายหลักคือ การฝึกฝนพวก เคียวสุเกะ ให้แข็งแกร่งขึ้น ภายหลังจากการ ตายของ บิอัน และ ไมเยอร์ เซ็นการ์ ซึ่งได้รับมอบปณิธานของทั้งคู่ ก็เปลี่ยนมาคอยช่วยเหลือกองทัพสหพันธ์โลก อยู่เบื้องหลังแทนร่วมกับ เอลซัม และ ได้เข้าต่อสู้ร่วมกับกองยาน Hagane และ Hiryu Kai ใน Operation SRW ที่สมรภูมิ L5 เพื่อขับไล่แอโรเกเตอร์ ออกไปจากเขตโลก หลังจากนั้นเซ็นเกอร์ และ เอลซัม ก็หายตัวไป

   จาก การประกาศสงครามของ Noir DC ที่ก่อตั้งโดยกองกำลังจาก DC เก่าซึ่งมีพวกจากต่างมิติ ชาโดว์ มิลเลอร์ คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ต่อกองทัพโลก และ การรุกรานของมนุษย์ต่างดาว Inspector รวมถึงการปรากฎ ตัวของสิ่งมีชีวิตลึกลับนามว่า ไอนส์ ใน SRW OG2 เซ็นการ์ จึงปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับ เรเซล ไฟน์ชูเมคเกอร์ (เอลซัม ฟอน บรันสไทน์) โดยการขับ Grungust Sanshiki เข้าช่วยเหลือ เคียวสุเกะ นันบุ จากการโจมตีของ วอดัน ยูมิล ซึ่งเป็นเซ็นการ์ อีกคนนึงจากโลกของ ชาโดว์ มิลเลอร์ ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็น ไซบอร์กใน W-Serie ของกองทัพ ชาโดว์ มิลเลอร์ ก่อนทั้งคู่จะร่วมกับ กิเรียม เยอร์ก้า อดีตเพื่อนร่วมทีม Aggressor อีกคนหนึ่ง บุกเข้าโจมตีฐานทัพของ ชาโดว์ มิลเลอร์ หลังจากที่ ชาโดว์ มิลเลอร์ ล่าถอยไป เซ็นการ์ และ เรเซล ก็ได้ล่วงหน้าไปยังสถาบัน Tesla Leincht ที่อเมริกาเหนือเพื่อปลดปล่อยสถาบันจากการควบคุมของ Inspector
และ รับมรดกของ ดร. บิอัน โซลดาร์ค ที่เก็บไว้ในสถาบันแห่งนี้ใน Operation Plantagenet ซึ่งก็ถูกขัดขวางโดย 1 ใน 4 จุตรเทพของ Inspector วิกาจิ เซ็นการ์ จึงได้นำ Grungust Sanshiki เข้าไปสู้ตัวต่อตัว เพื่อถ่วงเวลาให้ เรเซล เข้าไปช่วยเหลือพวก ฟิริโอ แต่ เซ็นการ์ กลับเสียทีให้กับ วิกาจิ จน ซันคันโต กระเด็นไปพร้อมกับแขนขวา แต่ในระหว่างนั้นเอง วอดัน ยูมิล ก็ปรากฎตัวขึ้นเข้าช่วยเหลือ เซ็นการ์ และ ถ่วงเวลาให้ จนกระทั่งพวก ฟิริโอ ได้เตรียมการส่ง Dynamic General Guardian (DGG) หรือ ที่เซ็นการ์ตั้งชื่อสั้นๆว่า DAIZENGAR มาให้ได้สำเร็จ และ ได้ร่วมกับ เรเซล ซึ่งขับ DGG เครื่องที่ 2 Aussenseiter เข้าต่อสู้กับ วิกาจิ จนล่าถอยไป หลังจาก Operation Plantagenet เซ็นการ์ ก็เข้าร่วมทางไปกับ กองยาน คุโรกาเนะ เข้าโจมตี เอิร์ธ เครเดิ้ล เพื่อต่อสู้ตัดสินกับ วอลดัน ยูมิล และ ปลดปล่อย ดร.โซเฟีย จากการควบคุมของ Megus ก่อนจะร่วมกับกองทัพ สหพันธ์เข้าต่อสู้ในศึกตัดสินระหว่าง ชาโดว์ มิลเลอร์ อินสเปคเตอร์ และ ไอนส์ ที่ ไวท์ สตาร์ หลังเหตุการณ์ใน SRW OG2 เซ็นการ์ ก็ได้อยู่ในทีม คุโรกาเนะ ร่วมกับ เรเซล , ยูกิ เจคนัน , ริคาร่า บอร์กไนน์ , ราอูล กุเรเดน, ราจิ มอนโตย่า และ มิซึโฮะ ไซกิ เข้าต่อสู้กับ กองกำลัง กองกำลังบัลโทล และ พวกชูร่าจากต่างมิติ ที่มุ่งหมายจะควบคุมโลก ใน SRW OG Gaiden

   สำหรับ เนื้อเรื่องของ เซ็นการ์ ในภาค Alpha นั้นเริ่มด้วยการเป็น ดาบแห่งเมกัส ผู้เฝ้าประตูทางเข้าเอิร์ธ เครเดิ้ล ในโลกอนาคต อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น โดย เซ็นการ์ นั้นถูกควบคุมโดย ดร.โซเฟีย เน็ต ผู้ซึ่งโดนเมนคอมพิวเตอร์ ของ เอิร์ธ เครเดิ้ล เมกัส ควบคุมอีกที (ถ้าเป็นใน Official Manga ของภาค Alpha Gaiden จะเปลี่ยนเป็นว่าจริงๆแล้ว เซ็นการ์ นั้นไม่ได้ถูกควบคุมแต่แรกแต่เลือกจะปกป้องโซเฟียตั้งแต่แรก) แต่ภายหลังการ ต่อสู้กับกองกำลัง พรีเวนเดอร์ และ ลอนโดเบล เซ็นการ์ ก็ได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง และ ทราบแล้วว่า ดร.โซเฟีย ที่ตัวเขาเองได้ปกป้องมาตลอดนั้น ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว จึงเข้าร่วมกับกองกำลัง พรีเวนเดอร์ เข้าต่อสู้กับ เมกัส เพื่อปลดปล่อยโซเฟีย จากการควบคุมของเมกัส และ สู้ในศึกสุดท้ายกับ ชูว์ ชิราคาวะ ที่ปรากฎตัวขึ้นเพื่อทำลายโครงการ AEGIS (แผนการณ์ซึ่งสร้างโลห์ป้องกันคลื่นแรงโน้มถ่วงที่เกิดขึ้นจากสงคราม Balmar)

   หลัง จากโครงการ AEGIS ประสบผลสำเร็จทำให้ประวัติศาสตร์ ได้เปลี่ยนแปลงไป เซ็นการ์ จากโลกอนาคตจึง ถูกแยกออกจากประวัติศาสตร์ปัจจุบันโดยสิ้นเชิง แต่อย่างไรก็ตาม เซ็นการ์ในโลกปัจจุบัน นั้นก็ยังเป็นผู้คอยปกป้อง เอิร์ธ เครเดิ้ล เช่นเดิม แต่ในระหว่าง ที่เตรียมการเข้าสู่การนอนแช่แข็ง นั้นเอง คุคุลุ เจ้าหญิงแห่ง อาณาจักรโบราณ ได้นำกองกำลัง Haniwa เข้ามาโจมตี ยัง เอิร์ธ เครเดิ้ล โดยมีเป้าหมายที่ แมชชีน เซลล์ เซ็นการ์ จึงนำ Grungust Type 3 เข้าไปเพื่อปกป้อง เอิร์ธ เครเดิ้ล แต่ทว่าเมื่อเซ็นการ์ ขึ้นไปถึงบนพื้นผิวโลก เอิร์ธ เครเดิ้ล ก็ถูกโจมตีจนส่วนภายนอกนั้นถูกทำลายไปแล้ว เซ็นการ์ ที่คิดว่า ดร.โซเฟีย ได้ตายไปแล้ว ก้เกิดความแค้นที่ตัวเองไม่สามารถปกป้องคนที่รักได้ จึงได้ขับ Grungust Type 3 ออกตามล่า คุคุลุ อย่างเอาเป็นเอาตาย ดาบพิฆาตอธรรม จึงเปลี่ยนเป็นดาบแห่งความแค้น จนกระทั่ง เซ็นการ์ได้พบกับ ศาสตราจารย์ ไดมอนจิ (จาก Gaiking) ซึ่ง ศจ.ไดมอนจิ ได้กล่อมให้เซ็นการ์ ถือดาบเพื่อผู้คนบนโลกนี้ หลังจากได้ฟังคำพูดของ ศจ.ไดมอนจิ แล้ว เซ็นการ์ จึงสามารถหลุดพ้นจากความแค้นลง ได้และกลายเป็น ดาบพิฆาตอธรรม ที่แท้จริงได้ในที่สุด

Credit :: จัดทำโดย Jack149